ผิดสัญญาทางปกครอง เอกชนมีสิทธิได้รับค่าการงานที่ทำไปหรือไม่
สวัสดีครับเรื่องเล่าคดีปกครองกับทนายพฤกษ์ คดีปกครอง ในตอนนี้จะนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับ กรณีมีการผิดสัญญาทางปกครองซึ่งคู่สัญญาฝั่งหน่วยงานของรัฐได้บอกเลิกสัญญา และริบหลักประกันสัญญาไว้เป็นค่าปรับ คู่สัญญาฝั่งบริษัทเอกชนจะสามารถดำเนินการอย่างใดได้บ้าง
ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เนื่องจากเทศบาลได้จัดทำโครงการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชนในท้องที่ด้วยการติดกล้องวงจรปิดหรือกล้อง cctv โดยผู้ฟ้องคดีเป็นบริษัทเอกชน ซึ่งชนะการสอบราคาและได้ทำสัญญาซื้อขายกล้องวงจรปิดหรือกล้อง cctv พร้อมติดตั้งกับเทศบาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันปัญหายาเสพติดและความปลอดภัยในท้องที่ ซึ่งถือเป็นการจัดทำบริการสาธารณะในอำนาจหน้าที่ของเทศบาล สัญญาดังกล่าวจึงเป็นสัญญาทางปกครอง ต่อมา ผู้ฟ้องคดีได้ส่งมอบกล้อง cctv พร้อมติดตั้งให้แก่เทศบาล โดยคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้รายงานความเห็นต่อนายกเทศมนตรีว่า ผู้ฟ้องคดีไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและรายละเอียดแนบท้ายสัญญาอย่างครบถ้วน จึงไม่ทำการตรวจรับงานในครั้งนี้ เทศบาลเห็นว่าผู้ฟ้องคดีผิดสัญญาจึงมีหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาและริบหลักประกันสัญญาไว้เป็นค่าปรับ โดยสงวนสิทธิ์ไม่รับกล้องวงจรปิดที่ผู้ฟ้องคดีนำมาติดตั้งไว้ และให้ผู้ฟ้องคดีนำกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับคืนไป เนื่องจากเป็นทรัพย์ที่รื้อถอนได้ เพื่อให้แต่ละฝ่ายกลับคืนสู่ฐานะเดิม ผู้ฟ้องคดีเห็นว่ากล้องวงจรปิดที่ส่งมอบเป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญาแล้ว การที่เทศบาลไม่ตรวจรับมอบงานเป็นการผิดสัญญา ทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย ผู้ฟ้องคดีจึงมีหนังสือทวงถามให้เทศบาลชำระเงิน แต่เทศบาลเพิกเฉย จึงฟ้องคดีต่อศาลศาลปกครอง เพื่อขอให้เทศบาลชำระค่ากล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไปแล้วให้แก่ผู้ฟ้องคดี
ในคดีนี้ศาลปกครองพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อผู้ฟ้องคดีได้ส่งมอบกล้องวงจรปิดพร้อมอุปกรณ์และมีการดำเนินการเข้าทดสอบตามวันเวลาที่เทศบาลกำหนด โดยมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมทำการตรวจสอบ ต่อมา เทศบาลได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ฟ้องคดีเข้าดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามสัญญา ผู้ฟ้องคดีจึงได้ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดและมีหนังสือขอส่งมอบงาน โดยมีการแก้ไขและส่งมอบงานครั้งที่ 2 แต่คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ภายหลังการตรวจสอบแล้วได้รายงานผลการตรวจสอบว่า ผู้ฟ้องคดีปฏิบัติไม่เป็นไปตามสัญญา เทศบาลจึงมีหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาและริบหลักประกันสัญญาไว้เป็นค่าปรับ และให้ผู้ฟ้องคดีดำเนินการนำกล้องวงจรปิดพร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกลับคืนไป ดังนั้น ในกรณีนี้การที่ผู้ฟ้องคดีส่งมอบกล้องวงจรปิดพร้อมติดตั้งไม่ครบถ้วนตามที่ระบุในสัญญาผู้ฟ้องคดีจึงเป็นฝ่ายประพฤติผิดสัญญา เทศบาลมีสิทธิที่จะบอกเลิกสัญญาได้ ซึ่งการบอกเลิกสัญญาส่งผลให้คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม อย่างไรก็ดีในการไต่สวนพยานผู้เชี่ยวชาญของศาลปกครองและจากรายงานของพยานผู้เชี่ยวชาญระบุว่ากล้องวงจรปิดของผู้ฟ้องคดีสามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ รวมทั้งถ้อยคำของพยานซึ่งเป็นผู้ใช้กล้องวงจรปิดระบุว่าสามารถมองเห็นภาพทั้งเวลากลางวันและกลางคืน จึงเห็นได้ว่า กล้องวงจรปิดตามสัญญาดังกล่าวนั้นใช้งานได้ เทศบาลจึงต้องใช้ค่าการงานในการติดตั้งกล้องวงจรปิดในส่วนที่สามารถใช้งานได้ให้แก่ผู้ฟ้องคดี และเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า จากการตรวจสอบอุปกรณ์กล้องวงจรปิดตามสัญญาจำนวน 14 รายการ เป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีปัญหา 11 รายการ และพบปัญหาการติดตั้งและใช้งาน 3 รายการ จึงพิพากษาให้เทศบาลชำระเงินตามสัญญาในส่วนของอุปกรณ์ที่ไม่มีปัญหาในการติดตั้งและใช้งาน
โดยสรุป จากเรื่องเล่าคดีเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองในตอนนี้บริษัทเอกชนซึ่งเป็นคู่สัญญาหากมีการดำเนินการที่ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามสัญญาโดยเป็นฝ่ายผิดสัญญา คู่สัญญาอีกฝ่ายคือหน่วยงานของรัฐมีสิทธิที่จะไม่ตรวจรับงานตามสัญญาทางปกครองและบอกเลิกสัญญาได้โดยชอบ ซึ่งการเลิกสัญญาดังกล่าวส่งผลให้คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะเดิม โดยในการกลับคืนสู่ฐานะเดิมนี้หมายถึงฐานะเดิมก่อนทำสัญญาหรือใกล้เคียงที่สุดที่สามารถทำได้ เช่นกรณีเกี่ยวกับส่วนที่เป็นการงานที่ได้กระทำให้ตามสัญญาและยอมให้ใช้ประโยชน์ซึ่งการที่จะชดใช้คืนให้ทำได้ด้วยการใช้เงินตามส่วนของค่างานนั้น หน่วยงานของรัฐจึงต้องชดใช้ค่าการงานที่ใช้ประโยชน์ได้ตามสัญญา
———————————————
ทนายพฤกษ์ คดีปกครอง
– ปรึกษาคดี ติดต่อ 063-6364547
– Line: @prueklaw
สำนักงานกฎหมาย พฤกษ์ แอนด์ พาร์ทเนอร์
สำนักงานทนายความคดีปกครอง ทนายช่วยเหลือคดีปกครอง ทนายความคดีปกครอง