ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือเพราะตกสำรวจ ใครต้องรับผิดชอบ

ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือเพราะตกสำรวจ ใครต้องรับผิดชอบ

สวัสดีครับ เรื่องเล่าคดีปกครอง กับทนายพฤกษ์ คดีปกครอง ที่จะนำมาเสนอในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสำรวจข้อมูลราษฎรผู้ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีน้ำท่วมซึ่งมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือและการเยียวยาจากภาครัฐ

กรณีอุทกภัยหรือเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนอกจากที่จะต้องยอมรับและช่วยเหลือตนเองรวมทั้งช่วยเหลือซึ่งกันและกันแล้ว สิ่งที่ประชาชนคาดหวังและนึกถึงเป็นลำดับต่อมาก็คือความช่วยเหลือและการเยียวยาจากภาครัฐ ซึ่งความช่วยเหลือนั้นต้องเป็นความช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน

คดีปกครองที่จะนำมาเล่าในตอนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินเยียวยาช่วยเหลือน้ำท่วม โดยมีเหตุมาจากการเกิดน้ำท่วมในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของ อบต. และจังหวัดได้มีการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) นายอำเภอในฐานะผู้กำกับดูแล อบต. และเป็นประธานคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ ได้สั่งการให้ อบต. สำรวจครัวเรือนที่ประสบอุทกภัยเพื่อให้การช่วยเหลือ หลังจากนั้นได้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือให้ผู้ประสบอุทกภัยตามบัญชีรายชื่อที่สำรวจ แต่ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นผู้ประสบอุทกภัยและอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือกลับไม่มีรายชื่อในแบบสำรวจ ผู้ฟ้องคดีก็เลยทวงถามไปทาง อบต. และได้รับการแจ้งกลับมาว่า มีการจ่ายเงินช่วยเหลือกันไปเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า ตนก็เป็นผู้ประสบอุทกภัยมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือแต่ อบต. สำรวจรายชื่อตกหล่นทำให้ตนเสียสิทธิ จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง โดยฟ้องให้ นายก อบต. และ อบต. ชดใช้ค่าเสียหายจากการที่ไม่ได้รับเงินเยียวยาพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย

โดยคดีนี้ผู้ถูกฟ้องคดีได้อ้างว่า เนื่องจากในการสำรวจรายชื่อผู้ประสบอุทกภัยมีระยะเวลาในการสำรวจกระชั้นชิดและมีเจ้าหน้าที่ออกสำรวจไม่เพียงพอ รวมทั้งได้มีการประกาศแจ้งเสียงตามสายเพื่อให้ผู้เดือดร้อนไปแจ้งรายชื่อแล้ว แต่ผู้ฟ้องคดีมิได้ไปแจ้งสิทธิ

ในคดีนี้ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า เมื่อการสั่งการของนายอำเภอเป็นการสั่งการโดยมีกฎหมายให้อำนาจกระทำได้ และเป็นการสั่งการโดยชอบด้วยกฎหมาย อบต. จึงมีหน้าที่สำรวจรายชื่อครัวเรือนที่ประสบอุทกภัยตามที่อำเภอมอบหมาย ถือได้ว่าเป็นหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ แม้ อบต. จะเพิ่งได้รับข้อสั่งการ แต่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต. ย่อมต้องมีข้อมูลพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายในท้องที่ของตน โดยอาศัยข้อมูลที่มีอยู่แล้วก็น่าจะเพียงพอกับระยะเวลาดำเนินการ และไม่ใช่กรณีที่ราษฎรต้องแจ้งสิทธิของตนก่อน เมื่อ อบต. สำรวจและจัดเก็บรายชื่อไม่ถูกต้อง ทำให้รายชื่อของราษฎรที่อยู่ในหลักเกณฑ์ได้รับความช่วยเหลือตกสำรวจ จึงถือได้ว่าเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ประสบอุทกภัยไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ จึงเป็นการกระทำละเมิดอันเกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ อบต. จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดี

โดยสรุปเรื่องเล่าในตอนนี้ หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ความรับผิดชอบของตน นอกจากจะต้องให้ความช่วยเหลือเป็นการเฉพาะหน้าแล้ว การสำรวจตรวจสอบข้อมูลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเสียหายให้แก่ผู้ประสบภัยก็ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การช่วยเหลืออย่างถูกต้องครบถ้วน

———————————————

ทนายพฤกษ์ คดีปกครอง

– ปรึกษาคดี ติดต่อ 063-6364547

– Line: @prueklaw 

#สำนักงานทนายความคดีปกครอง ทนายความคดีปกครอง